บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 4
วันอังคาร ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน
การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 3
บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 3
วันอังคาร ที่ 27 มกราคม 2558
ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้มีกิจกรรม และเนื้อหา เรื่อง บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวมและการร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย
กิจกรรม
วาดภาพดอกทานตะวันตามแบบที่กำหนดมาให้เหมือนที่สุด และให้บรรยายสิ่งที่เห็นในภาพ
ผลงานของฉัน
- การวินิจฉัย หมายถึง การตัดสินใจโดยดูจากอาการหรือสัญญาณบางอย่าง
- จากอาการที่แสดงออกมานั้น อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้
- เกิดผลเสียมากกว่าผลดี
- ชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
- เด็กจะกลายเป็นเช่นนั้นจริงๆ
- พ่อแม่ ของเด็กพิเศษ มักทราบดีว่าลูกของเค้ามีปัญหา
- พ่อแม่ ไม่ต้องการให้ครูมาย้ำในสิ่งที่เขารู้อยู่แล้ว
- ครู ควรพูดในสิ่งที่เป็นความคาดหวัง ในด้านบวก แตาต้องไม่ให้เกิดความหวังผิดๆ
- ครู ควรรายงานผู้ปกครองว่าเด็กทำอะไรได้บ้าง เท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้
- ครู ช่วยให้ผู้ปกครองมีความหวัง และเห็นแนวทางที่จะช่วยให้เด็กพัฒนา
- ครูสามารถชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ
- ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสม ในการประเมินผลหรือวิจัย
- สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
- จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วงๆ
- ไม่มีใครสามารถสังเกตอย่างมีระบบ ได้ดีกว่าครู และบันทึก
- ครูเห็นเด็กในสถานะการต่างๆ ช่วงเวลายาวนานกว่า
- ต่างจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักคลินิก มักมุ่งความสนใจอยู่ที่ปัญหา
- จะทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมอย่างไร
- เป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ครูและ พ่อแม่ เข้าใจเด็กดีขึ้น
- บอกได้ว่าเรื่องใดบ้างที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
- ครูต้องไวต่อความรู้สึก และตัดสินใจล่วงหน้าได้
- ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่างๆ ได้
- พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฎให้เห็นเสมอไป
- การนับอย่างง่ายๆ
- การบันทึกต่อเนื่อง
- การบันทึกไม่ต่อเนื่อง
- นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรม
- กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง
- ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
- ให้ลายละเอียดได้มาก
- เขียนทุกอย่างที่เด็กทำในช่วงเวลาหนึ่ง หรือช่วงกิจกรรมหนึ่ง
- โดยไม่ต้องเข้าไปแนะนำช่วยเหลือ
- ทำให้ครูได้ข้อมูลมากที่สุด
- บันทึกตามสภาพจริงของเด็ก
- บันทึกหมดทุกอย่างที่เด็กพูด
- บันทึกบนบัตรเล็กๆ
- เป็นการบันทึกสั้นๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่ง
- สามารถให้ครูพี่เลี้ยงบันทึกก็ได้
- ควรอาใจใส่ถึงระดับความมาก น้อย บกพร่อง มากกว่าชนิดองความบกพร่อง
- พฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่พบได้ในเด็กทุกคนไม่ควรจัดเป็นสิ่งผิดปกติ
- ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง
- พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้นไปขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กหรือไม่
ประเมินผลการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย และสนุกสนานกับการเรียนมากคะ ได้วาดรูปดอกทานตะวันที่คิดว่าตัวเองจะสามารถวาดออกมาให้ได้เหมือนมากที่สุด ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมาย
ประเมินเพื่อน เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจทำงาน เพื่อนๆ มีความสุขกับการวาดรูป ดอกทานตะวัน มีเสียงหัวเราะขณะทำงาน ทำให้ไม่เครียด
ประเมินอาจารย์ เข้าสอนตรงเวลา เนื้อหาการสอนไม่น่าเบื่อ เทคนิคการสอนทำให้นักศึกษาเข้าใจง่าย ไม่เครียด ทุ่มเทกับการสอนนักศึกษา
บันทึกอนุทินครั้งที่ 2
บันทึกอนุทินครั้งที่ 2
วันอังคาร ที่ 20 มกราคม 2558
การเรียนในวันนี้จะเป็นการเรียนแบบบรรยายเนื้อหา ที่เกี่ยวกับเรื่อง รูปแบบการจัดการศึกษา
- การจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป
- มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน
- ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน
- ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน
การเรียนร่วมบางเวลา
- การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติในบางเวลา
- เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออก และมีปฎิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ
- เป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก
- การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน
- เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ
- เพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน ตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกัน
- เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลายของมนุษย์
- การศึกษาสำหรับทุกคน
- รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา
- จัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละคน
สรุปความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
- เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติโดยรับเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
- เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเรา
- เกิดจากปรัชญาการศึกษาที่กล่าวไว้ว่าการศึกษาสำหรับทุกคน
- การเรียนรวมเป็นแนวคิดทางการศึกษาอย่างหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องจัดการศึกษาให้กับเด้กทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติหรือเด็กคนใดเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
- เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก
- เด็กทุกคนที่ผู้ปกครองพาเข้ามาโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับเด็กไว้และจะต้องจัดการศึกษาให้อย่างเหมาะสมและดำเนินการเรียนในลักษณ์ '' รวมกัน '' ที่ทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน
- ทุกคนยอมรับว่ามีผู้พิการอยู่ในสังคมและเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับคนปกติ โดยไม่มีการแบ่งแยก
ประเมินผลการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนและจดบันทึกข้อมูลที่สำคัญ และให้ความร่วมมือในการร้องเพลงร่วมกับเพื่อนๆ
ประเมินเพื่อน เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรีบยร้อย ตั้งใจเรียนและจดบันทึกข้อมูล ตอบคำถามอาจารย์ และให้ความร่วมมือในการร้องเพลงเป็นอย่างดี และสนุกสนาน
ประเมินอาจารย์ เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ เนื้อหาในการสอนเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้ นักศึกษาดูเพื่อให้เห็นภาพยิ่งขึ้น
วันอังคาร ที่ 20 มกราคม 2558
การเรียนในวันนี้จะเป็นการเรียนแบบบรรยายเนื้อหา ที่เกี่ยวกับเรื่อง รูปแบบการจัดการศึกษา
- การศึกษาปกติทั่วไป (Regular Education)
- การศึกษาพิเศษ (Special Education)
- การศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)
- การศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)
- มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน
- ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน
- ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน
การเรียนร่วมบางเวลา
- เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออก และมีปฎิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ
- เป็นเด็กพิเศษที่มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก
- เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ
- เพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน ตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกัน
- เด็กปกติจะยอมรับความหลากหลายของมนุษย์
- รับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา
- จัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละคน
- เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติโดยรับเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาและจัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
- เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเรา
- เกิดจากปรัชญาการศึกษาที่กล่าวไว้ว่าการศึกษาสำหรับทุกคน
- การเรียนรวมเป็นแนวคิดทางการศึกษาอย่างหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องจัดการศึกษาให้กับเด้กทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติหรือเด็กคนใดเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
- เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก
- เด็กทุกคนที่ผู้ปกครองพาเข้ามาโรงเรียนทางโรงเรียนจะต้องรับเด็กไว้และจะต้องจัดการศึกษาให้อย่างเหมาะสมและดำเนินการเรียนในลักษณ์ '' รวมกัน '' ที่ทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน
- ทุกคนยอมรับว่ามีผู้พิการอยู่ในสังคมและเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับคนปกติ โดยไม่มีการแบ่งแยก
ประเมินตนเอง แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนและจดบันทึกข้อมูลที่สำคัญ และให้ความร่วมมือในการร้องเพลงร่วมกับเพื่อนๆ
ประเมินเพื่อน เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรีบยร้อย ตั้งใจเรียนและจดบันทึกข้อมูล ตอบคำถามอาจารย์ และให้ความร่วมมือในการร้องเพลงเป็นอย่างดี และสนุกสนาน
ประเมินอาจารย์ เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ เนื้อหาในการสอนเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้ นักศึกษาดูเพื่อให้เห็นภาพยิ่งขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)